"ซิดนีย์"จากเราไปแล้ว เหลือเพียงแค่ความทรงจำที่ดีดี

14 เมษายน 2551

ธรรมชาติของแมว


ธรรมชาติของแมวจะอยู่กับแมวให้แมวเป็นสุขและคนก็เป็นสุขด้วย ก็ควรจะรู้ใจแมวที่เลี้ยงกันสักนิด สำหรับคนที่เลี้ยงแมวมานานแล้วก็คงไม่ต้องอ่านหน้านี้เพราะเชี่ยวชาญกันอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ตั้งใจว่าจะรักแมวจริงซะทีต้องมาดูว่าธรรมชาติของแมวเป็นอย่างไรบ้าง แมวเป็นสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนม มีหูที่ไวต่อเสียงมากและจมูกก็ไวต่อกลิ่นต่าง ๆ ด้วย (แต่น้อยกว่าสุนัข)


แมวสามารถได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่มนุษย์ไม่ได้ยิน หนวดแมวจะใช้สัมผัสวัตถุที่อยู่ใกล้ ๆ แทนการใช้สายตา แมวสามารถมองในที่มืดได้ดี เพราะม่านตาของแมวจะปรับขยายเพื่อรับแสงที่เข้ามาได้เวลาแสงมากม่านตาจะหดตัว ถ้ามองแสงโดยตรงจะเห็นว่าม่านตาจะเป็นเส้นตรงไปเลย ทำให้มองอะไรไม่ชัดเจน แต่ถ้าแสงน้อยม่านตาจะขยายตัว จนจะเห็นได้ว่าตาดำใหญ่เกือบเท่าเบ้าตาทีเดียว ทำให้มองเห็นชัดขึ้น แต่เวลาตกใจกลัวหรือกำลังสนใจอะไรแบบสุด ๆม่านตาก็จะขยายมากขึ้นเหมือนกัน แต่ม่านตาของแมวก็มีข้อเสียอย่างเช่นถ้ากำลังข้ามถนนในเวลากลางคืนแล้วจู่ ๆ ก็มีรถวิ่งมา แสงไฟหน้ารถจะทำให้ม่านตาของแมวหดลงจนเป็นเส้นตรง ดังนั้นแมวก็อาจถูกรถชนได้


แมวยังมีความสามารถพิเศษอีก คือ ความคล่องตัว ด้วยการที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบาและกระดูกขาที่แข็งแรงและกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นได้ดี ทำให้แมวสามารถจะกระโดดได้สูงและไกลกว่าสัตว์อื่น ๆ นอกจากนี้แมวยังสามารถกระโดดลงจากที่สูงได้อย่างปลอดภัย หรือถ้าตกจากที่สูงก็สามารถกลับตัวกลางอากาศเอาขาทั้ง 4 ยันพื้นได้ (แต่ถ้าเป็นแมวตัวอ้วนพีก็อาจท้องแตกได้เพราะความคล่องตัวลดน้อยลงไป)และหางใช้ช่วยในการทรงตัวของแมวด้วยครับ


แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบอาบน้ำยกเว้นพันธุ์เตอรกิชแวน แต่แมวจะเลียตัวเพื่อทำความสะอาดตัวเองนี่แค่กายภาพภายนอกเท่านั้นเราควรรู้ถึงอารมณ์ของแมวด้วยจะได้ไม่ถูกแมวตบเอาไง แมวจะแสดงออกทางอวัยวะต่าง ๆ ให้เห็นถึงอารมณ์ที่มันเป็นอยู่ในขณะนั้น

ไม่มีความคิดเห็น: